วันพุธที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2555

ออสเตรเลียเริ่มเก็บภาษีลดโลกร้อน


รัฐบาลออสเตรเลียเริ่มใช้กฎหมาย เก็บภาษีปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ แล้วตั้งแต่วันนี้ ท่ามกลางการเดินขบวนประท้วงของประชาชนนับหมื่นในเมืองซิดนีย์ ขณะที่ฝ่ายค้านจวกจะทำให้ค่าครองชีพสูงและกระทบอุตสาหกรรมในวงกว้าง ประกาศจะยกเลิด หากชนะการเลือกตั้งในปีหน้า รัฐบาลออสเตรเลียของนายกรัฐมนตรีหญิง นางจูเลีย กิลลาร์ด เริ่มบังคับใช้กฎหมายภาษีคาร์บอนแล้ว โดยการเก็บภาษีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ตัวการหลักของปัญหาภาวะโลกร้อนขึ้นจะบังคับให้บริษัทเอกชน ที่เป็นผู้ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์รายใหญ่ราว 350บริษัท ต้องจ่ายเงิน 23ดอลลาร์ออสเตรเลีย (ประมาณ 750 บาท)ต่อก๊าซคาร์บอนที่ปล่อยออกมาทุกๆ 1ตัน รัฐบาลคาดหวังว่า การเก็บภาษีนี้จะช่วยลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนในออสเตรเลียได้อย่างน้อยปีละ 159 ล้านตันจนถึงปี 2563 หรือเท่ากับนำรถยนต์ประมาณ 45 ล้านคันออกไปจากท้องถนน
ออสเตรเลียเป็นหนึ่งในประเทศที่ปล่อยก๊าซคาร์บอนมากที่สุดในโลก เนื่องจากต้องพึ่งพาถ่านหินถึงร้อยละ 80ในการผลิตกระแสไฟฟ้า การเก็บภาษีคาร์บอนถือเป็นเครื่องมือสำคัญของรัฐบาล ในการบรรลุเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ภายในปี 2563 ให้เหลือต่ำกว่าอย่างน้อยร้อยละ 5ของระดับในปี 2543ตามแผนของรัฐบาล ภาษีคาร์บอนจะเก็บในอัตราตายตัว 23ดอลลาร์ออสเตรเลียต่อ 1 ตันในระยะ 3 ปีแรก หลังจากนั้นจะหันไปใช้แผนขายสิทธิการปล่อยมลภาวะ ด้วยภาษีอัตราลอยตัวตามกลไกลตลาด โดยรัฐบาลเป็นผู้กำหนดราคาพื้นฐาน

ประชาชนนับหมื่นคน ออกมาเดินขบวนในเมืองซิดนีย์ เมืองใหญ่สุดของประเทศ เพื่อต่อต้านการจัดเก็บภาษีคาร์บอนของรัฐบาล ขณะที่นายโทนี่ แอบบอตต์ ผู้นำพรรคเสรีนิยม ฝ่ายค้าน กล่าวว่า การเก็บภาษีคาร์บอนจะทำให้ประชาชนเดือดร้อน จากค่าครองชีพสูงขึ้น รวมทั้งส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมในวงกว้าง นายแอบบอตต์ประกาศจะยกเลิกกฎหมายฉบับนี้ หากพรรคเสรีนิยมได้เป็นรัฐบาล หลังการเลือกตั้งในปีหน้า

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น